วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2551

กลุ่มวิจัยสหรัฐฯ ยัน “คน” ไม่ใช่ตัวการ “โลกร้อน”

เราฟังความข้างเดียวมามากว่า โลกร้อน เพราะ คน
วันนี้ลองมาดู ความคิดเห็นของอีฟากกันนะครับ แล้วลอง พิจารณาดู


1.การสังเกตรูปแบบการเกิดภาวะโลกร้อนเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับแนวโน้มอุณหภูมิ ที่ผิวโลกและที่ชั้นบรรยากาศกลับไม่ได้แสดงลักษณะเฉพาะใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาวะเรือนกระจกเลย” เดวิด ดักลาส (David Douglas) ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์ มลรัฐนิวยอร์ก หัวหน้าทีมวิจัย กล่าว ซึ่งการระบุว่าการเพิ่มขึ้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตลอดจนก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ ว่าเป็นสาเหตุของปัญหานั้นก็เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น


2.การถอยร่นของธารน้ำแข็งและการเหือดหายไปของหิมะในเขตเทือกเขาแอลป์ ชั้นน้ำแข็งในทะเลอาร์กติกที่บางลงในช่วงหน้าร้อน และการละลายของผืนดินที่เป็นน้ำแข็ง แสดงว่าความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้มาถึงตั้งแต่เดือน มี.ค.แล้ว


3.ข้อมูลการสังเกตจากดาวเทียมทำให้เห็นว่าแบบจำลองการเกิดภาวะเรือนกระจกได้ มองข้ามปัจจัยเรื่องเมฆและไอน้ำไป ซึ่งมันจะจำกัดผลของภาวะโลกร้อนที่เกิดจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดย ฝีมือคนเราให้เหลือน้อยลง

4.อุณหภูมิที่อบอุ่นขึ้นของโลกในเวลานี้เป็นเพียงวัฏจักรธรรมชาติระหว่างสภาพ ภูมิอากาศแบบอบอุ่นและหนาวเย็น ซึ่งเห็นได้จากแกนน้ำแข็ง ตะกอนใต้ทะเลลึก และหินงอก ดังที่มีการตีพิมพ์ในวารสารนับร้อยๆ งานวิจัย” ซิงเกอร์ กล่าวและชี้ว่า ไม่อาจชี้ชัดไปได้ว่าคนจะสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ ซึ่งข้อมูลที่มีอยู่ก็ยังคลุมเครือ
แต่สาเหตุว่าเพราะเหตุใด ภาวะดังกล่าวกลับปรากฏขึ้นในปัจจุบันนี้ก็ยังหาคำตอบไม่ได้เช่นกัน แต่ทีมวิจัยคาดว่า สาเหตุหลักน่าจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของลมสุริยะและสนามแม่เหล็กนอกโลก ซึ่งมีผลต่อการไหลของรังสีคอสมิกที่ส่งผลต่อการเกิดเมฆ อันเป็นตัวควบคุมปริมาณแสงอาทิตย์ที่ตกมาถึงผิวโลก และทำให้เกิดภูมิอากาศ มากกว่าที่มันจะเกิดจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยฝีมือมนุษย์


อ้างอิงจาก http://www.en.mahidol.ac.th/forum/viewtopic.php?f=9&t=722

ไม่มีความคิดเห็น: