การทำ Burn in CPU
คือการใช้งาน CPU แบบหนัก ๆ เป็นระยะเวลานาน ๆ อย่างต่อเนื่องภายใต้อุณหภูมิสูง เช่นการเพิ่มไป Vcore เข้าไปอีกนิดหน่อย และหาโปรแกรมที่ต้องใช้งาน CPU หนัก ๆ มารันค้างไว้ เช่น Prime 95 หรือโปรแกรม Benchmark ต่าง ๆ โดยที่การทำ Burn in จะทำให้เกิดการเปลียนแปลงของ Interface ต่าง ๆ ภายใต้ตัวซิป CPU ทำให้มีการเชื่อมต่อที่ดีขึ้น ดังนั้น การ Burn in จึงมีส่วนช่วยให้สามารถใช้งาน CPU ได้ที่ความเร็วมากขึ้นด้วย หลักการทำ Burn in สำหรับการ Over Clock ก็คือ หลังจากที่ปรับความเร็วได้สูงที่สุดแล้ว ให้ทดลองทำ Burn in หรือใช้งานหนัก ๆ สัก 1 สัปดาห์ หลังจากนั้น จึงทดลองเพิ่ม ความเร็วไปอีก ซึ่งอาจจะได้ความเร็วที่สูงขึ้นกว่าเดิมก็ได้
ประสิทธิภาพของแคช Level 2 บน CPU
ปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการ Over Clock ก็คือความสามารถของแคช L2 ว่าจะสามารถทำงานได้ตามความเร็วของ CPU หรือ FSB หรือไม่เนื่องจากการทำงานของแคช L2 นั้นจะทำงานสมัพันธ์กับความเร็วของ FSB หรือ CPU โดยขึ้นอยู่กับสถาปัตยกรรมของระบบนั้น ๆ บน Socket7 แคช L2 จะมีความถี่เดียวกับ FSB แต่สำหรับ Pentiumll ความถี่จะเป็นครึ่งหนึ่งของความเร็ว CPU และบน celeron จะใช้ที่ความถี่เดียวกับ CPU เลย ดังนั้นความสำเร็จจากการ Over Clock จึงขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของแคช L2 ด้วย ถ้าการ Over Clock ไม่สำเร็จ ก็ให้ลอง Disable Cache L2 ใน BIOS แล้วลองดูใหม่ ถ้่าระบบเสถียรขึ้น หรือสามารถบูตได้ก็แสดงว่า อาจจะมาจากสาเหตุนี้ก็ได้ (แต่อย่าลืมว่าการ Disable Cache L2 นี้จะทำให้ปประสิทธิภาพของ CPU นั้นลดลงไปด้วย)
รู้จักกับระบบความเร็วบัสต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์กันก่อน
โดยทั่วไปแล้ว การทำ Over Clock โดยการเพิ่ม FSB ให้สูงขึ้นนั้น จะเป็นการเพิ่มความเร็วของระบบบัสต่าง ๆ ในเครื่องด้วยนะครับ ดังนั้นอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ทำงานอยู่บนระบบบัสเหล่านี้ ก็จะต้องทำงานที่ความเร็วสูงขึ้นตามไปด้วย การเลือกใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น VGA Card , Sound Card หรือแม้แต่ Hard Disk ก็จะต้องสามารถรองรับการทำงานของบัสต่าง ๆ ที่สูงผิดปกตินี้ได้ด้วยครับ เพื่อความเข้าใจระบบบัสต่าง ๆ ที่มีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ง่ายขึ้น ผมขอแบ่งออกง่าย ๆ ตามนี้
ความเร็วของ External Clock หรือ FSB ส่วนใหญ่ก็จะเป็นมาตรฐานครับ เช่น 50 , 55 , 60 , 66 , 75 , 83 , 100 , 133 , 150 หรือ 180 MHz การปรัับค่าต่าง ๆ จะทำได้ละเอียดมากน้อยเ้พียงใดขึ้นอยู่กับเมนบอร์ดแต่ละรุ่น
ความเร็วของ PCI Bus จะมีความเร็วมาตรฐานที่ 33 MHz หรือเป็น 1/3 เท่าของ FSB สำหรับเมนบอร์ดที่ดี ๆ ก็จะสามารถปรับอัตราส่วนของ PCI ได้หลายค่าเช่น 1/2 , 1/3 หรือ 1/4 เท่าของ FSB ก็ได้ เช่น เราสามารถใช้ FSB ที่ 133 MHz แต่ว่า PCI ยังสามารถทำงานได้ที่ 33 MHz นะครับโดยการปรับอัตราส่วนเป็น 1/4 เป็นต้น
ความเร็วของ AGP Bus โดยทั่วไปแล้ว AGP จะเป็น Slot สำหรับการ์ดแสดงผลครับ ซึ่งใน 1 เครื่องคอมพิวเตอร์จะมี AGP Slot เพียงแค่อันเดียวนะครับ โดยที่ AGP Bus จะทำงานที่ความเร็ว 66 MHz หรือเป็น 2/3 เท่าของ FSB นะครับ หลักการอื่น ๆ ก็เหมือนกันกับ PCI คือสามารถปรับเป็นอัตราส่วนความเร็วค่าต่าง ๆ เช่น 2/3 หรือ 1/2 เป็นต้น
ความเร็วของ RAM Bus ส่วนใหญ่แล้ว RAM จะทำงานที่ความเร็วเดียวกับ FSB แต่ว่าในเมนบอร์ดบางรุ่นที่ดีึ ๆ ก็ยังสามารถปรับอัตราส่วนความเร็วได้ด้วย เช่น FSB เป็น 133 MHz แต่ RAM ทำงานที่ 100 MHz
โดยสรุป ก็คือการเลือกซื้อเมนบอร์ดที่สามารถปรับค่าต่าง ๆ เหล่านี้ได้ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้คุณทำการ Over Clock ได้ดีขึ้น จากข้อมูลข้างบน จะเห็นว่า หากเราใช้เมนบอร์ดแบบทั่ว ๆ ไป ใช้งาน FSB ที่ 120 MHz ลองมาดูกันนะครับ จะเห็นว่า PCI จะต้องทำหน้าที่ 40 MHz และ AGP ก็ต้องทำงานที่ 80 MHz ซึ่งอุปกรณ์บางชนิด จะไม่สามารถทำงานได้ เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของปัญหา Over Clock ที่ไม่ควรมองข้ามไป
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น